ไบโอฟลาโวนอยด์
- เป้นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงระสิทธิภาพ จึงสามารถต้านมะเร็งได้ มีฤทธิ์เสริมความแข็งแรงของหลอดเลือดฝอย มีส่วนช่วยในการต้านการอักเสบ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเอ็นไซด์ขับสารพิษ
ไบโอฟลาโวนอยด์ หรือ วิตามิน พี (Vitamin P)
ในผลไม้รสเปรี้ยวที่อยู่ระหว่างผิวกับเปลือกมักนำมาเป็นส่วนผสมของวิตามินซีในรูปผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
"Flavonoid คือสารประกอบของวิตามินซีที่อยู่ในรูปของสารธรรมชาติ มีมากในรกส้ม (ส่วนที่เป็นเส้นขาวๆที่กลีบส้ม) เป็นสารทีทำให้การทำงานของวิตามินซีทำงานได้กว้างขวางมากขึ้น
ไบโอฟลาโวนอยด์ มีหน้าที่ดูดซึม วิตามิน ซี ,วิตามิน c และเสริมฤทธิ์ของวิตามิน ซีให้ในร่างกายได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเมื่อใดที่ร่างกาย ขาด วิตามิน c
"Flavonoid คือสารประกอบของวิตามินซีที่อยู่ในรูปของสารธรรมชาติ มีมากในรกส้ม (ส่วนที่เป็นเส้นขาวๆที่กลีบส้ม) เป็นสารทีทำให้การทำงานของวิตามินซีทำงานได้กว้างขวางมากขึ้น
ไบโอฟลาโวนอยด์ มีหน้าที่ดูดซึม วิตามิน ซี ,วิตามิน c และเสริมฤทธิ์ของวิตามิน ซีให้ในร่างกายได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเมื่อใดที่ร่างกาย ขาด วิตามิน c
ก็สามารถดึงเอาวิตามิน พี หรือ ไบโอฟลาโวนอยด์ มาใช้ได้เช่นกัน
ไบโอฟลาโวนอยด์ได้ชื่อเป็นสารอาหารที่ใช้รักษาอาการเปราะและแตกง่ายของเส้นเลือด และมีคุณสมบัติในการเสริมสร้างระบบการทำงานของหลอดเลือดและหัวใจ
เช่นให้หลอดเลือดแข็งแรงขึ้น ช่วยรักษาหลอดเลือดที่แข็งตัวให้กลับสู่สภาวะปกติ
รักษาแผลเรื้อรังจากเบาหวานด้วยการเพิ่มความยืดหยุ่นขอหลอดเลือดให้ระบบสามารถส่งผ่านเลือดไปเลี้ยงบริเวณแผลได้ดีขึ้น
ช่วยลดไขมันในเลือดทั้งไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอล ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และยังมีรายงานทางการแพทย์ว่า
ไบโอฟลาโวนอยด์
ไบโอฟลาโวนอยด์
สามารถควบคุมการจับตัวของเกล็ดเลือดที่ก่อให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดเล็กๆ และรวมไปถึงหลอดเลือดดำส่วนลึกที่อยู่ภายในกล้ามเนื้อ
นอกจากนี้ไบโอฟลาโวนอยด์ยังเป็นที่ยอมรับว่าสามารถคลายกล้ามเนื้อเรียบได้ดีเท่าๆ กับยาคลายกล้ามเนื้อ จึงมีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้อง
เนื่องจากการบิดตัวหรือเกร็งตัวของลำไส้ มีอาการที่ดีขึ้น
ลดการอักเสบและการบวมของข้อ อาการบวมน้ำ นอกจากนี้ ยังช่วยในการบำบัดอาการหลอดเลือดดำอุดตันและอักเสบ ผื่นแพ้และภูมิแพ้อีกด้วย
ยังมีคุณสมบัติที่ดีของไบโอฟลาโวนอยด์อีกมากมาย เช่น ช่วยพิชิตความเครียด ป้องกันโรคหวัด และช่วยในการสมานแผล ฯลฯ โดยจะเห็นได้ว่า
ไบโอฟลาโวนอยด์ และ วิตามิน ซี จะมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกันและเอื้อต่อกัน แต่เหตุผลหลักที่ทำให้ผู้ผลิตนิยมใช้วิตามิน ซี ควบคู่กับไบโอฟลาโวนอยด์
(วิตามิน พี) ก็คือการเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกันเพื่อให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นๆ ได้ประสิทธิภาพที่สุดยอด และตอบโจทย์ความต้องการอย่างสูงสุดของผู้บริโภค
ร่างกายอาจต้องการวิตามิน ซี วันละ60- 1,000 มิลลิกรัม ตามความเหมาะสมและประโยชน์ที่จะได้รับ ไบโอฟลาโวนอยด์ในปริมาณ ที่
ประโยชน์ต่อร่างกาย ... ไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoid) 100-500 มิลลิกรัมต่อวัน มิลลิกรัม
ประโยชน์ วิตามินซี ,วิตามิน c
ประโยชน์ วิตามินซี ,วิตามิน c
- ช่วยปกป้องเซลล์ เสริมภูมิคุ้มกันสุขภาพและความแข็งแรงของเนื้อเยื่อในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับเส้นเอ็นและคอลลาเจน
- ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น เนื่องจากช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและรักษาตัวเองโดยการเสริมสร้างผนังเซลล์ ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรงและ
ต่อต้านการอักเสบ ส่งผลให้แผลหายเร็ว
- ช่วยให้เหงือกสุขภาพแข็งแรง โดยวิตามินซีจะไปช่วยรักษาเซลล์ที่ถูกทำลายและช่วยให้แผลที่เหงือกหายเร็ว
- ช่วย ต้านทานต่อโรคหัวใจ โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรับประทานร่วมกับวิตามินอี
โดยจะไปลดการเกาะของไขมันที่ผนังหลอดเลือด
- ช่วยป้องกันโรคต้อกระจก สามารถช่วยปกป้องเลนส์ตาจากอันตรายต่างๆ เช่น ควันบุหรี่ แสงอุลตราไวโอเลต ที่กระตุ้นให้เกิดต้อกระจก
ธุรกิจ อารากอนเวิลด์54
ช่องทางสู่อิสระภาพทางการเงินและเวลา
ที่ทันสมัยที่สุด!!! ในเวลานี้...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น