วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555

คุณค่าจากเมล็ดองุ่น (สารสกัดใน Viva Plus)


คุณค่าจากเมล็ดองุ่น

เมล็ดองุ่นมีสารประกอบที่สำคัญคือ วิตามินอี flavonoids, linoleic acid, และ OPCs เปลือกของผลองุ่นก็มีสารประกอบเหล่านี้เช่นเดียวกัน แต่มีปริมาณน้อยกว่า ในน้ำองุ่นและไวน์ก็มีสารประกอบ OPCs เช่นเดียวกัน แต่มีปริมาณน้อยกว่าในเมล็ด นอกจากนั้น ผลองุ่นยังมีสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มเดียวกับ OPCs อีกชนิดหนึ่งเรียกว่า resveratrol ซึ่งส่วนใหญ่พบในบริเวณผิวหนัง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน และกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาถึงคุณสมบัติในการบำบัดรักษาโรคหลายชนิด





สารสกัดจากเมล็ดองุ่น 
คุณค่าทางยาและโภชนาการขององุ่น ได้รับการยอมรับมาเป็นเวลายาวนานหลายพันปีแล้ว ชาวอียิปต์รับประทานองุ่นกันมาเป็นเวลากว่า 6 พันปี บรรดานักปราชญ์ชาวกรีกโบราณชื่นชมสรรพคุณทางยาของผลองุ่น โดยเฉพาะในรูปของไวน์ หมอพื้นบ้านในยุโรปใช้น้ำมันที่สกัดจากเถาองุ่นในการรักษาโรคผิวหนังและโรคตา
ใบองุ่นมีสรรพคุณในการห้ามเลือด ลดอาการอักเสบและเจ็บปวดอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพบางชนิด อาทิ ริดสีดวงทวาร เป็นต้น ผลองุ่นที่ยังไม่สุกมีสรรพคุณในการรักษาอาการเจ็บคอ ผลองุ่นตากแห้งมีสรรพคุณในการรักษาอาการท้องผูกและร้อนใน
ผลองุ่นสุกมีสรรพคุณในการรักษาโรคหลายชนิด รวมทั้งมะเร็ง อหิวาตกโรค ฝีดาษ อาการคลื่นเหียน ตาแดง และโรคที่เกี่ยวกับผิวหนัง ไตและตับ
เชื่อกันว่า สารเคมีหลายชนิดในผลองุ่น โดยเฉพาะ oligomeric proanthocyanidin complexes (OPCs) มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) บางคนเชื่อว่าสารเหล่านั้นมีสรรพคุณทางยาในการรักษาโรคหลายชนิด ตั้งแต่โรคหัวใจไปจนกระทั่งถึงโรคมะเร็งและทำให้ผิวหนังเต่งตึง แม้จะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันชัดเจนก็ตาม
อย่างไรก็ดี มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันชัดเจนว่า สารสกัดจากเมล็ดองุ่นมีสรรพคุณในการรักษาโรคเส้นเลือดขอด (chronic venous insufficiency-- CVI) และโรคบวมน้ำ (Edema) การศึกษาจากอาสาสมัครที่มีสุขภาพดีกลุ่มหนึ่งพบว่า การรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่นทำให้ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในกระแสเลือดเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สารต้านอนุมูลอิสระนั้น มีคุณสมบัติช่วยทำลายอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสารพิษในร่างกายที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ บางกรณีอาจทำให้เซลตายได้ เชื่อกันว่าอนุมูลอิสระเป็นต้นเหตุของการชราภาพ รวมทั้งก่อให้เกิดโรคร้ายแรงหลายชนิด รวมทั้งโรคหัวใจและมะเร็ง
ลักษณะขององุ่น 
องุ่นเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียบริเวณใกล้ ๆ ทะเลแคสเปียน แต่ถูกนำไปปลูกในอเมริกาเหนือและยุโรปในเวลาต่อมา องุ่นเป็นไม้เถา มีใบขนาดใหญ่ลักษณะเป็นแฉก เถาองุ่นมีเปลือกที่ลอกออกได้เองเมื่อแก่จัด ผลองุ่นมีหลายสี อาทิ เขียว แดง และม่วง     
สารสำคัญในองุ่น
เมล็ดองุ่นมีสารประกอบที่สำคัญคือ วิตามินอี flavonoids, linoleic acid, และ OPCs เปลือกของผลองุ่นก็มีสารประกอบเหล่านี้เช่นเดียวกัน แต่มีปริมาณน้อยกว่า ในน้ำองุ่นและไวน์ก็มีสารประกอบ OPCs เช่นเดียวกัน แต่มีปริมาณน้อยกว่าในเมล็ด นอกจากนั้น ผลองุ่นยังมีสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มเดียวกับ OPCs อีกชนิดหนึ่งเรียกว่า resveratrol ซึ่งส่วนใหญ่พบในบริเวณผิวหนัง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน และกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาถึงคุณสมบัติในการบำบัดรักษาโรคหลายชนิด
ประโยชน์ทางการแพทย์และแนวโน้ม
ปัจจุบันมีการใช้สารสกัดจากเมล็ดองุ่นในการเยียวยาปัญหาสุขภาพหลายชนิดที่เกิดจากพิษของอนุมูลอิสระ อาทิ โรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็ง เป็นต้น ผลการศึกษาในสัตว์ทดลองสนับสนุนการใช้สารสกัดจากเมล็ดองุ่นในการรักษาโรคเหล่านั้น
ผลการศึกษาพบว่า สาร flavonoids ที่พบในไวน์แดงช่วยลดปริมาณโคเลสเตอรอล LDL ซึ่งเป็นโคเลสเตอรอลชนิด “เลว” ทำให้หัวใจแข็งแรง กล่าวกันว่าชาวฝรั่งเศสมีสถิติเป็นโรคหัวใจน้อยกว่าชาวอเมริกันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่นิยมรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงเหมือนกัน เนื่องจากชาวฝรั่งเศสนิยมดื่มไวน์แดง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันได้ชัดเจนว่า สารสกัดจากเมล็ดองุ่นช่วยลดการเป็นโรคหัวใจได้จริงหรือไม่ นักวิจัยบางรายชี้ว่า ชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่มีสุขภาพหัวใจดีเพราะแอลกอฮอล์จากไวน์มากกว่าสาร flavonoids ขณะที่นักวิจัยอีกกลุ่มหนึ่งเชื่อว่า ทั้งแอลกอฮอล์และสาร flavonoids ต่างก็มีส่วนช่วยให้ชาวฝรั่งเศสมีสุขภาพหัวใจแข็งแรง
สมาคมสุขภาพหัวใจอเมริกัน (American Heart Association) และองค์การด้านสุขภาพอีกหลายองค์กรไม่สนับสนุนการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันโรคหัวใจ ด้วยเหตุผลว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ มีความเสี่ยงต่อการเสพติดและปัญหาร้ายแรงอื่น ๆ เช่น อุบัติเหตุในการขับขี่รถยนต์ เป็นต้น ทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคตับ โรคมะเร็งเต้านม และโรคอ้วน อีกต่างหาก ผลการศึกษาพบว่าผู้ชายไม่ควรดื่มไวน์เกินกว่าวันละ 2 แก้วและผู้หญิงไม่ควรดื่มไวน์เกินกว่าวันละ 1 แก้ว









โรคเส้นเลือดขอด
โรคเส้นเลือดขอด หรือ CVI คืออาการเส้นเลือดขอดที่บริเวณขา เห็นเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมาอย่างชัดเจน ทำให้เส้นเลือดและผิวหนังตึงและเจ็บปวด รายงานผลการศึกษาที่เชื่อถือได้จากหลายสำนักยืนยันว่า สาร OPCs จากเมล็ดองุ่นช่วยบรรเทาอาการของโรคนี้ได้


อาการบวมน้ำ
อาการบวมน้ำ (Edema) เป็นอาการบวมอันเนื่องมาจากการเกิดบาดแผลหรือการผ่าตัด ผลการศึกษาพบว่า การรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่นช่วยให้หายจากอาการบวมน้ำในได้เร็วขึ้น อาการบวมน้ำมักจะเกิดขึ้นเป็นปกติหลังการผ่าตัดรักษามะเร็งเต้านม
ผลการศึกษาจากผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมพบว่า การรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่นวันละ 600 มิลลิกรัม เป็นเวลา 6 เดือนหลังการผ่าตัด ช่วยลดอาการบวมน้ำและอาการปวดแผลได้มากกว่าการใช้ยาหลอก (placebo) ตามปกติโดยทั่วไป นอกจากนั้น การศึกษาอีกรายหนึ่งยังพบว่า การรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่นหลังได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ช่วยลดอาการปวดและบวมที่บริเวณบาดแผลได้มากกว่าการรับประทานยาหลอก (placebo)



โคเลสเตอรอลสูง
ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันได้ชัดเจนว่า การรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่นช่วยลดโคเลสเตอรอลได้ แต่ผลการศึกษาเบื้องต้น 2 รายบ่งชี้ว่ามีแนวโน้มน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
การศึกษารายหนึ่ง ในกลุ่มอาสาสมัครที่มีโคเลสเตอรอลสูง 40 คน โดยกลุ่มหนึ่งให้รับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่น อีกกลุ่มหนึ่งรับประทานโครเมี่ยม กลุ่มที่สามรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่นร่วมกับโครเมี่ยม และกลุ่มสุดท้ายให้รับประทานยาหลอก (placebo) ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 2 เดือน ผลการศึกษาพบว่า การรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่นร่วมกับโครเมี่ยม มีประสิทธิภาพในการลดโคเลสเตอรอล LDL ได้ดีกว่าการรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่นหรือโครเมี่ยมแต่เพียงอย่างเดียว
การศึกษาอีกรายหนึ่ง ทำในกลุ่มอาสาสมัครชายที่สูบบุหรี่แต่ยังมีสุขภาพดี 24 คน (อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป) เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดจากเมล็ดองุ่น ในการละลายไขมันในกระแสเลือด โดยให้อาสาสมัครกลุ่มหนึ่งรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่นวันละ 75 มิลลิกรัมต่อเนื่องกันเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งรับประทานยาหลอกในปริมาณเท่ากัน ผลการศึกษาพบว่าปริมาณโคเลสเตอรอล LDL ในกลุ่มอาสาสมัครที่รับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่นลดลงอย่างเห็นได้ชัด


ความดันโลหิตสูง
ในทางทฤษฎี สารสกัดจากเมล็ดองุ่นน่าจะช่วยบำบัดโรคความดันโลหิตสูงได้ สารต้านอนุมูลอิสระที่พบในเมล็ดองุ่น มีคุณสมบัติช่วยปกป้องเส้นโลหิตไม่ให้เกิดความเสียหาย เส้นโลหิตที่เกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากการทำลายของอนุมูลอิสระ อาจก่อให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงได้
ผลการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่า สารสกัดจากเมล็ดองุ่น ช่วยลดความดันโลหิตลงได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่การทดลองในมนุษย์ยังไม่ปรากฏผลยืนยันชัดเจนว่า สารสกัดจากเมล็ดองุ่นช่วยรักษาหรือบรรเทาโรคความดันโลหิตสูงได้ 


มะเร็ง
ผลการศึกษาในห้องทดลองพบว่า สารสกัดจากเมล็ดองุ่น อาจช่วยลดการเติบโตของเซลมะเร็งในทรวงอก ในกระเพาะอาหาร ในลำไส้ ในต่อมลูกหมาก และในปอดได้ แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า สารสกัดจากเมล็ดองุ่นสามารถใช้รักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งดังกล่าวข้างต้นได้จริง
เชื่อกันว่าสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในเมล็ดองุ่น ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้ และสารสกัดจากเมล็ดองุ่นอาจช่วยป้องกันความเสียหายของเซลตับที่เกิดจากการรักษาโรคด้วยวิธีเคมีบำบัดได้อีกด้วย ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ก่อนตัดสินใจใช้สารต้านอนุมูลอิสระร่วมกับเคมีบำบัด เพื่อความมั่นใจว่าจะไม่ก่อให้เกิดปฏิกริยาในเชิงลบ


โรคอื่น ๆ
แม้จะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันชัดเจน แต่ปัจจุบันสารสกัดจากเมล็ดองุ่นก็ได้รับความนิยมในการใช้บำบัดโรคและฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกายหลากหลายรูปแบบ เช่น 


  • เบาหวาน (ใช้ควบคุมน้ำตาลในเลือด) 
  • เพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นในเวลากลางคืน 
  • ปกป้องคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง (ลดการเหี่ยวย่น) 
  • บรรเทาริดสีดวงทวาร 
รูปแบบของสารสกัด
ปัจจุบันมีการผลิตสารสกัดจากเมล็ดองุ่นเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในหลายรูปแบบ อาทิ ชนิดแค็ปซูล ชนิดเม็ด และในรูปของสารสกัดชนิดน้ำ ผู้บริโภคควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์มาตรฐานที่มีปริมาณสาร proanthocyanidins 40-80% หรือ มีสาร OPC ไม่น้อยกว่า 95%


วิธีใช้
เด็ก ๆ ไม่ควรรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่น การรับประทานผลองุ่นสุก ที่สะอาดและปลอดภัย น่าจะเหมาะสมกว่า 


สำหรับผู้ใหญ่ ควรบริโภคสารสกัดจากเมล็ดองุ่นดังนี้ 
  • รับประทานสารสกัดมาตรฐาน (มีปริมาณ proanthocyanidins 40 - 80% หรือ ปริมาณ OPC 95%) ขนาด 25-150 มิลลิกรัม วันละ 1-3 ครั้ง เพื่อล้างพิษอนุมูลอิสระ 
  • รับประทาน 150-300 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อรักษาโรคเส้นเลือดขอด 
  • รับประทานวันละ 200-400 มิลลิกรัม เป็นเวลา 10-30 วัน เพื่อบรรเทาอาการบวมน้ำ
ข้อควรระวัง
การใช้สมุนไพรเพื่อการรักษาโรคหรือเพื่อเสริมสร้างสุขภาพ มีวิวัฒนาการต่อเนื่องมาเป็นเวลายาวนาน แต่อย่างไรก็ตาม สมุนไพรแต่ละชนิดอาจก่อให้เกิดอาการข้างเคียง หรือทำปฏิกริยากับสมุนไพรชนิดอื่น หรือสารอื่นที่ใช้ในทางยาได้ ดังนั้น จึงควรระมัดระวังในการเลือกใช้สมุนไพร ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานจากผู้ผลิตที่มีความเชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรอย่างแท้จริงเท่านั้น
การบริโภคสารสกัดจากเมล็ดองุ่นตามปริมาณที่กำหนดต่อเนื่องกันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ไม่มีอันตรายใด ๆ ต่อร่างกายมนุษย์ สตรีที่กำลังอยู่ระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ไม่ควรรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่น
ปัจจุบันยังไม่มีรายงานทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้ถึงปฏิกริยาเชิงลบระหว่างสารสกัดจากเมล็ดองุ่นกับผลิตภัณฑ์ยาโดยทั่วไป แต่สาร OPCs ในเมล็ดองุ่นอาจก่อให้เกิดอาการข้างเคียงดังต่อไปนี้
โลหิตแข็งตัวช้า (Anticoagulants) --- สารสกัดจากเมล็ดองุ่นอาจช่วยลดความข้นของเลือด เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอาการเลือดไหลไม่หยุดได้ ในกรณีใช้ร่วมกับยาละลายลิ่มเลือดชนิดอื่น เช่น warfarin (Coumadin) ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการใช้ยาละลายลิ่มเลือด หรือ มีปัญหาเลือดแข็งตัวช้า ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้สารสกัดจากเมล็ดองุ่น


***********

บทความนี้แปลจากเว็บไซต์ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแมรีแลนด์ (University of Maryland MedicalCenter) สหรัฐอเมริกาhttp://www.umm.edu/altmed/articles/grape-seed-000254.htm 



ธุรกิจ อารากอนเวิลด์54
ช่องทางสู่อิสระภาพทางการเงินและเวลา
ที่ทันสมัยที่สุด!!! ในเวลานี้...
สนใจร่วมธุรกิจกับเรา คลิ๊ก!!!






วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

สรรพคุณของผลลูกยอ (ส่วนผสมสารสกัดใน Viva Plus)


"ราชินีแห่งพืชสมุนไพร"


*** ลักษณะทั่วไป ***

   ยอ เป็นไม้ขนาดกลาง  ใบใหญ่เขียวเป็นมัน ดอกสีขาว ผลยาวรีมีปุ่มรอบผล  เมื่ออ่อนผลสีเขียวสด, ผลแก่จัดจะเป็นสีขาวนวล  โดยจะออกผลตลอดปี  จึงมีผลผลิตของน้ำลูกยอซึ่งสามารถผลิตได้อย่างต่อเนื่อง

*** สรรพคุณของผลลูกยอ ***

    ยอ  เป็นสมุนไพรไทยพื้นบ้านที่คนไทยทั่วทุกภาครู้จัก และ บริโภคเป็นอาหารมานาน ทั้งในส่วนของใบ และ ผล  ผลยอมีวิตามินซีสูง  สารโพลีแซคคาไรด์ที่ได้จากน้ำตาลในผลลูกยอจะออกฤทธิ์ต้านมะเร็งโดยผ่านระบบภูมิคุ้มกัน และ สารโปรเซโรนีน จะกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวให้มีประสิทธิภาพ, ลดอาการภูมิแพ้, ช่วยให้การทำงานของเซลล์ในร่างกายเป็นปกติ
    ยอ  มีรสเผ็ดร้อน  ในทางยาใช้เป็นยาระบาย, ช่วยในการขับลมในลำไส้, แก้คลื่นเหียนอาเจียน, ช่วยย่อยอาหาร  จึงนิยมนำมาใช้ทำยารักษาโรคท้องอืดท้องเฟ้อ
    ยอ  ก็เป็นยาชั้นยอดในการขับลม, เป็นยาอายุวัฒนะ, ช่วยบำรุงธาตุ, ระบายท้อง  ผู้หญิงควรกินลูกยอที่แก่จัดเพื่อบำรุงเลือดลม, ปวดท้องประจำเดือน, รักษาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ  คนโบราณเชื่อว่าถ้าเลือดลมดีผิวพรรณก็จะเปล่งปลั่ง, สดใส, ไม่เป็นสิวฝ้า
    ยอ  จึงเป็นสมุนไพรที่เป็นยาอายุวัฒนะของสังคมไทย  เพราะนอกจากจะมีคุณค่าทางอาหารสูงแล้ว ยังเป็นปัจจัยที่จะทำให้ร่างกายเป็นปกติ โดยไม่เสียสมดุล

การดื่มน้ำลูกยอเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง  จะส่งผลให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง


จากผลงานการวิจัย  ได้ทำการวิจัยลูกยอไทย 

ค้นพบสารสำคัญต่างๆ

ที่ดี และ มีประโยชน์มากมาย  ดังนี้.

*** ประโยชน์ทางยา *** 

    ตำรายาไทยใช้ผลสด, ดิบ หรือ ห่าม ฝานเป็นชิ้นบาง ย่าง หรือ คั่วไฟอ่อน ๆ ให้เหลือง ต้ม หรือ
 ชงกับน้ำ  ดื่มแก้คลื่นไส้อาเจียน  นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณอื่น ๆ อีก คือ บำรุงเลือดลม,
ลดความดันโลหิตสูง, ขับลม และ ช่วยย่อยอาหาร

*** สารที่ออกฤทธิ์ ***

    สารประกอบทางเคมีที่สำคัญในน้ำลูกยอ ได้แก่ โปรเซอโรนีน (Perxeronine),
โปรเซอโรเนส (Perxeroninase), เซอโรนีน (Xeronine), เซอโรโทนีน (Serotonin),
สโคโพลิติน (Scopoletin), เทอปีนส์ (Terpenes), แอนทราควิโนน (Anthraquinones) 
และ แดมนาแคนทาล (Damnacantal) เป็นต้น
    นอกจากนี้ในยอยังพบสารอินทรีย์อื่น ๆ ที่จัดเป็นทั้งอาหาร และ ยา เช่น
ไบโอเฟลโวนอยด์ (Bio-flavonoid),กรดอะมิโน, สารจำพวกเอนไซม์ (Enzyme),
โคเอนไซม์ (Coenzyme) ตลอดจนวิตามิน และ เกลือแร่อีกเป็นจำนวน 153 ชนิดด้วยกัน

ขอขอบคุณข้อมูล : โดย ภารกิจโครงการ และ ประสานงานวิจัย 
                             สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)   



ธุรกิจ อารากอนเวิลด์54
ช่องทางสู่อิสระภาพทางการเงินและเวลา
ที่ทันสมัยที่สุด!!! ในเวลานี้...
สนใจร่วมธุรกิจกับเรา คลิ๊ก!!!








\



วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ทำไมต้องดี ท็อกซ์ สารพิษออกจากร่างกาย


       เรื่องสุขภาพ ในปัจจุบันนี้เป็นที่สนใจกันมาก เพราะว่าโรคร้ายต่างๆ คุกคามและทำลายชีวิตมนุษย์มากขึ้น
        สาเหตุมาจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่่เปลี่ยนไป  ขาดการออกกำลังกาย มลภาวะสิ่งแวดล้อม ความเครียดเป็นต้น
เป็นเหตุ ให้เซลล์ ถูกทำลายจนกลายเป็นโรคร้ายที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เกิดจากอวัยวะเสื่อมถอย
การดูแลสุขภาพที่ดีต้องอาศัยปัจจัย5 อ. ได้แก่
         อาหาร   ควรเลือกบริโภคอาหารที่เหมาะสม
         อากาศ   อยู่ในที่มีอากาศ ปราศจากมลภาวะต่างๆ
         อารมณ์  สดชื่นผ่องใส ไม่เครียด
         อุจจาระ  ระบขับถ่ายเป็นปกติทุกวัน
         ออกกำลังกาย   ออกกำลังกายเป้นประจำ
       มนุษย์เรามีลำไส้เล็กยาวเป็น12 เท่าของช่วงตัว รวมลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ยาวประมาณ 28 ฟุต
ขดไปมาผนังเป็นรอยย้นไม่เรียบ เมื่อกินเนื้อสัตว์เข้าไปกว่าจะขับถ่ายออกมาได้อาจใช้เวลา 5-10 วัน
ทำให้เกิดการบูดเน่า เหม็น และสร้างสารพิษออกมา ยิ่งอาการท้องผูก ของเก่าก็ขับอกไม่หมดเติมอาหาร
เนื้อใหม่เข้าไป ยิ่งหมักบูดเน่าทับถม จนเกิดการดูดซึมสารพิษหมุนเวียนกลับเข้าไปในร่างกายอีก ร่างกาย
จึงอ่อนแอเสื่อมทรุดเพราะสารพิษ ผู้ที่ท้อองผูกบ่อยๆ หลายวันจึงถ่ายอุจจาระ ร่างกายจะร้อนรุ่มๆ เหมือน
เป็นไข้ ผิวพรรณซีดเซียว ลมหายใจ เนื้อตัวรูขุมขนจะมีกลิ่นหมักๆ บูดๆ เพราะอาหารย่อยไม่หมด ทำให้
แบคทีเรียในลำไส้ได้อาศัยอาหารที่ย่อยไม่หมดเป็นอาหารโอชะ เจริญเติบโต ทำให้อาหารบูดเน่า มีแก็ส
ในลำไส้และแก็สก็ออกมากับลมหายใจ มีกลิ่นเหม็น อารมณ์เสียง่าย หงุดหงิด เครียดง่าย นอนหลับไม่สนิท
     ทุกท่านอาจสงสัยว่า แล้วทำอย่างไรละ ที่จะให้สารพิษ ออกจากร่างกายจะเลืกวิธีการขับสารพิษ คือ
    ปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่ผู้ที่รักสุขภาพ
 เลือกวิธี(ดีท็อก)เพื่อกำจัดToxin ออกจากลำไส้และตับ และยังช่วยให้สมองดีขึ้น จิตใจ หรือ   สุขภาพดีขึ้น
  ปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ

Coloplex (โคโลเพล็กซ์) FoodMatrix



ธุรกิจ อารากอนเวิลด์54
ช่องทางสู่อิสระภาพทางการเงินและเวลา
ที่ทันสมัยที่สุด!!! ในเวลานี้...
สนใจร่วมธุรกิจกับเรา คลิ๊ก!!!





วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แนวคิด เงิน 4 ด้าน



สนใจธุรกิจและผลิตภัณฑ์ สามารถติดต่อได้ที่ คุณวรวุฒิ  086-1707354 หรือ Email : viva.1999@hotmail.com ; worawut.249@gmail.com

แผนการตลาดดูได้ที่นี่ คลิ๊ก

ธุรกิจ อารากอนเวิลด์54
ช่องทางสู่อิสระภาพทางการเงินและเวลา
ที่ทันสมัยที่สุด!!! ในเวลานี้...
สนใจร่วมธุรกิจกับเรา คลิ๊ก!!!


Dr.Alan ( Z-Plex ) by AragonWorld 54



สนใจธุรกิจและผลิตภัณฑ์ สามารถติดต่อได้ที่ คุณวรวุฒิ  086-1707354 หรือ Email : viva.1999@hotmail.com ; worawut.249@gmail.com

แผนการตลาดดูได้ที่นี่ คลิ๊ก


ธุรกิจ อารากอนเวิลด์54
ช่องทางสู่อิสระภาพทางการเงินและเวลา
ที่ทันสมัยที่สุด!!! ในเวลานี้...
สนใจร่วมธุรกิจกับเรา คลิ๊ก!!!



Dr.Alan (Omegatone & Calcitone) by AragonWorld 54.



สนใจธุรกิจและผลิตภัณฑ์ สามารถติดต่อได้ที่ คุณวรวุฒิ  086-1707354 หรือ Email : viva.1999@hotmail.com ; worawut.249@gmail.com

แผนการตลาดดูได้ที่นี่ คลิ๊ก

ธุรกิจ อารากอนเวิลด์54
ช่องทางสู่อิสระภาพทางการเงินและเวลา
ที่ทันสมัยที่สุด!!! ในเวลานี้...
สนใจร่วมธุรกิจกับเรา คลิ๊ก!!!






Dr.Alan (ViVa,V-Max & Phyto Max) by AragonWorld 54




สนใจธุรกิจและผลิตภัณฑ์ สามารถติดต่อได้ที่ คุณวรวุฒิ  086-1707354 หรือ Email : viva.1999@hotmail.com ; worawut.249@gmail.com

แผนการตลาดดูได้ที่นี่ คลิ๊ก

ธุรกิจ อารากอนเวิลด์54
ช่องทางสู่อิสระภาพทางการเงินและเวลา
ที่ทันสมัยที่สุด!!! ในเวลานี้...
สนใจร่วมธุรกิจกับเรา คลิ๊ก!!!

แนะนำการทำธุรกิจบริษัท AragonWorld54


สนใจธุรกิจและผลิตภัณฑ์ สามารถติดต่อได้ที่ คุณวรวุฒิ  086-1707354 หรือ Email : viva.1999@hotmail.com ; worawut.249@gmail.com

แผนการตลาดดูได้ที่นี่ คลิ๊ก

ธุรกิจ อารากอนเวิลด์54
ช่องทางสู่อิสระภาพทางการเงินและเวลา
ที่ทันสมัยที่สุด!!! ในเวลานี้...
สนใจร่วมธุรกิจกับเรา คลิ๊ก!!!


วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555

มะขามป้อมสมุนไพรรักษาโรคมะเร็ง (สารสกัดใน Viva Plus)

มะขามป้อม


Phyllanthus emblica Linn.Malacca tree  Euphorbiaceae
มะขามป้อมเป็นไม้ที่ขึ้นง่ายไม่เลือกดินฟ้าอากาศพบได้ตามป่าเขาทั่วไปในแถบเอเชียจึงเป็นที่รู้จักกันดีทั้งในประเทศไทย จีน อินเดีย เนปาล มาเลเซีย ศรีลังกา  บังคลาเทศ  และญี่ปุ่น  มีการนำส่วนต่างๆ ของมะขามป้อมมาใช้เป็นยาพื้นบ้านรักษาโรคต่างๆ ทั้งส่วนใบ   ลำต้น ราก ผล หรือเปลือกลำต้น
นอกจากเป็นอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี ส่วนต่างๆ ของมะขามป้อมยังมีสารสำคัญหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ มีมากน้อยต่างกันไปตามส่วนต่างๆ ของพืชดังกล่าวแล้ว  กลุ่มสารสำคัญเหล่านี้ได้แก่  tannin  flavanoid  benzenoid  coumarin diterpine triterpine alkaloid และ steroid  นอกจากนี้ยังมีคาร์โบไฮเดรทที่ให้รสหวาน ได้แก่  น้ำตาล  glucose และ fructose โปรตีน และไขมัน ซึ่งประกอบด้วยกรดไขมันทั้งชนิดอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว  พบมากในส่วนเมล็ด
ได้มีการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาและพิษวิทยาของมะขามป้อม พบว่านอกจากเป็นแหล่งของวิตามินที่ใช้รักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้แล้ว  ส่วนต่างๆ ของมะขามป้อมยังมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาดังต่อไปนี้
.

ฤทธิ์ยับยั้งการก่อกลายพันธุ์

มีผู้ศึกษาเรื่องนี้กันมาก และพบว่าสารสกัดจากผลมะขามป้อมด้วย acetone ในความเข้มข้น 0.1 มล./plate  มีฤทธิ์ยับยั้งการก่อกลายพันธุ์ ที่เหนี่ยวนำด้วย sodium azide ของ Salmonella typhimurium TA 100, TA 97 ได้  สารสกัดด้วยคลอร์โรฟอร์ม หรือน้ำก็ให้ผลเช่นเดียวกัน  ในหนูถีบจักรที่ได้รับสารสกัดด้วยน้ำในขนาด 10 มล/กก สามารถยับยั้งการก่อกลายพันธุ์จากผลของโลหะนิเกิลได้  ถ้าให้ในขนาด 685 มก/กก พบว่าสามารถลดจำนวนความถี่ของโครโมโซมที่ผิดปกติ / เซลล์  ลด % ของเซลล์ที่ผิดปกติและความถี่ของ micronuclei ที่เกิดในเซลล์ของไขกระดูก
จากโลหะหนักอะลูมิเนียม และตะกั่ว ก็เช่นเดียวกัน หลังจากให้สารสกัดด้วยน้ำของผลมะขามป้อมแก่หนูถีบจักรในขนาด 685 มก/กก 7 วัน  แล้วฉีดอะลูมิเนียมหรือตะกั่ว เข้าช่องท้องของสัตว์ทดลอง พบว่าสารสกัดไปทำให้แบ่งตัวเพิ่มขึ้น แต่ไปลดการสลายของโครโมโซมในเซลล์ของกระดูก และในขนาดยาเท่ากันนี้ก็สามารถต้านการจับกลุ่มของโครโมโซมที่ถูกทำให้ผิดปกติด้วย ซีเซียมคลอไรด์ได้  นอกจากนี้เมื่อสัตว์ทดลองได้รับยาในขนาด 685 มก/กก ทุกวันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ก็สามารถลดจำนวนเซลล์ micronuclei ซึ่งเกิดโดยอะลูมิเนียม หรือตะกั่วได้เช่นกัน
.

ฤทธิ์ยับยั้งการเป็นพิษต่อตับและไต

มีรายงานว่าส่วนผสมของสมุนไพรซึ่งมีมะขามป้อมทั้งต้นเป็นส่วนประกอบด้วย  ทำเป็นยาต้มให้คนไข้รับประทานนาน  1-5 สัปดาห์พบว่าคนไข้  18 ใน 20 รายหายจากโรคดีซ่าน มีปริมาณ bilirubin ใน serum เป็นที่พอใจ
Phyllanthus emblica Linn.Malacca treeEuphorbiaceaeมะขามป้อมเป็นไม้ที่ขึ้นง่ายไม่เลือกดินฟ้าอากาศพบได้ตามป่าเขาทั่วไปในแถบเอเชียจึงเป็นที่รู้จักกันดีทั้งในประเทศไทย จีน อินเดีย เนปาล มาเลเซีย ศรีลังกา  บังคลาเทศ  และญี่ปุ่น  มีการนำส่วนต่างๆ ของมะขามป้อมมาใช้เป็นยาพื้นบ้านรักษาโรคต่างๆ ทั้งส่วนใบ   ลำต้น ราก ผล หรือเปลือกลำต้นนอกจากเป็นอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี ส่วนต่างๆ ของมะขามป้อมยังมีสารสำคัญหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ มีมากน้อยต่างกันไปตามส่วนต่างๆ ของพืชดังกล่าวแล้ว  กลุ่มสารสำคัญเหล่านี้ได้แก่  tannin  flavanoid  benzenoid  coumarin diterpine triterpine alkaloid และ steroid  นอกจากนี้ยังมีคาร์โบไฮเดรทที่ให้รสหวาน ได้แก่  น้ำตาล  glucose และ fructose โปรตีน และไขมัน ซึ่งประกอบด้วยกรดไขมันทั้งชนิดอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว  พบมากในส่วนเมล็ดได้มีการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาและพิษวิทยาของมะขามป้อม พบว่านอกจากเป็นแหล่งของวิตามินที่ใช้รักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้แล้ว  ส่วนต่างๆ ของมะขามป้อมยังมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาดังต่อไปนี้ฤทธิ์ยับยั้งการก่อกลายพันธุ์มีผู้ศึกษาเรื่องนี้กันมาก และพบว่าสารสกัดจากผลมะขามป้อมด้วย acetone ในความเข้มข้น 0.1 มล./plate  มีฤทธิ์ยับยั้งการก่อกลายพันธุ์ ที่เหนี่ยวนำด้วย sodium azide ของ Salmonella typhimurium TA 100, TA 97 ได้  สารสกัดด้วยคลอร์โรฟอร์ม หรือน้ำก็ให้ผลเช่นเดียวกัน  ในหนูถีบจักรที่ได้รับสารสกัดด้วยน้ำในขนาด 10 มล/กก สามารถยับยั้งการก่อกลายพันธุ์จากผลของโลหะนิเกิลได้  ถ้าให้ในขนาด 685 มก/กก พบว่าสามารถลดจำนวนความถี่ของโครโมโซมที่ผิดปกติ / เซลล์  ลด % ของเซลล์ที่ผิดปกติและความถี่ของ micronuclei ที่เกิดในเซลล์ของไขกระดูกจากโลหะหนักอะลูมิเนียม และตะกั่ว ก็เช่นเดียวกัน หลังจากให้สารสกัดด้วยน้ำของผลมะขามป้อมแก่หนูถีบจักรในขนาด 685 มก/กก 7 วัน  แล้วฉีดอะลูมิเนียมหรือตะกั่ว เข้าช่องท้องของสัตว์ทดลอง พบว่าสารสกัดไปทำให้แบ่งตัวเพิ่มขึ้น แต่ไปลดการสลายของโครโมโซมในเซลล์ของกระดูก และในขนาดยาเท่ากันนี้ก็สามารถต้านการจับกลุ่มของโครโมโซมที่ถูกทำให้ผิดปกติด้วย ซีเซียมคลอไรด์ได้  นอกจากนี้เมื่อสัตว์ทดลองได้รับยาในขนาด 685 มก/กก ทุกวันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ก็สามารถลดจำนวนเซลล์ micronuclei ซึ่งเกิดโดยอะลูมิเนียม หรือตะกั่วได้เช่นกันฤทธิ์ยับยั้งการเป็นพิษต่อตับและไตมีรายงานว่าส่วนผสมของสมุนไพรซึ่งมีมะขามป้อมทั้งต้นเป็นส่วนประกอบด้วย  ทำเป็นยาต้มให้คนไข้รับประทานนาน  1-5 สัปดาห์พบว่าคนไข้  18 ใน 20 รายหายจากโรคดีซ่าน มีปริมาณ bilirubin ใน serum เป็นที่พอใจ


ธุรกิจ อารากอนเวิลด์54
ช่องทางสู่อิสระภาพทางการเงินและเวลา
ที่ทันสมัยที่สุด!!! ในเวลานี้...
สนใจร่วมธุรกิจกับเรา คลิ๊ก!!!





การตลาดแบบดึงดูด จุดเปลี่ยนธุรกิจ

              การตลาดแบบดึงดูด จุดเปลี่ยนธุรกิจ


ปัญหาของคนทำธุรกิจขายตรง คือยิ่งทำธุรกิจขายตรงเท่าไหร่ไม่มีใครอยากคบหาหรือไม่มีใครอยากเข้าใกล้ รู้ไหมว่าปัญหามันเกิดอะไรขึ้นกับการทำธุรกิจขายตรงของคุณ?

-ถ้าเวลาไปเที่ยวเพื่อน ในกลุ่มเพื่อนคนหนึ่งคุยแต่เรื่องธุรกิจขายตรงให้เพื่อนฟังท่านจะรู้สึกอย่างไร

-ถ้าเวลาเจอหน้าญาตเมื่อไหร่ เป็นต้องแนะนำผลิตภัณฑ์หรือโอกาสทางธุรกิจขายตรงกับท่านท่านชอบหรือไม่
-เพื่อนไม่เคยคุยกันมาเป็นปีๆ โทรมาบอกว่ามีผลิตภัณฑ์มาเสนอ หรือมีโอกาสธุรกิจขายตรงมาเสนอท่านอยากฟังไหม
-เปิดหน้าเวปก็เจอแต่โฆษณาโอกาสทางธุรกิจขายตรงเต็มไปหมดท่านปิดเวปนั้นทิ้งหรือเปล่าล่ะ


อะไรคือสิ่งที่เวิร์คและไม่เวิร์คในการทำธุรกิจขายตรง



คราวนี้พอมองเห็นหรือยังครับว่า การตลาดธุรกิจขายตรงปัจจุบันที่ท่านคิดว่าเวิร์ค ที่ปรึกษาแนะนำให้ท่านทำ ลิสต์รายชื่อคนรู้จัก 100 คน แล้วกระหน่ำโทรหา คุยกับทุกคนบนท้องถนน รีบโทรไปบอกเพื่อนว่าเราทำธุรกิจขายตรงอยู่มาทำกับเราด่วน

แนะนำสิ่งดีๆให้คนใกล้ตัว ใช้ดีแล้วบอกต่อ (คำนี้เขาฮิตกันจัง) ทุ่มเงินลงในเวปเพื่อโปรโมตหรือซื้อรายชื่อมาโทรกันเลย แจกซีดีด้วย กำลังเป็นระบบที่ผลักไสไล่ส่งคนอื่นให้ไปไกลๆจากท่าน น่าตลกมาก ท่านกำลังทำธุรกิจขายตรงที่ต้องการคนเข้ามาร่วมแต่ระบบท่านกำลังไล่คนหนี.... !
นี่ละครับทำไมคนทำธุรกิจขายตรง 99% ไม่ประสบความสำเร็จ ได้น้อยกว่าเสีย สุดท้ายก็เข้าสู่วงจรอุบาทว์ในการทำธุรกิจขายตรงคือการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
ธุรกิจ A H B C ก็จะกลายเป็นของขวัญในความล้มเหลวต่อไปของท่าน คนเดียวกัน ทำงานแบบเดียวกัน ใช้ระบบเหมือนๆกัน ผลลัพธ์ย่อมไม่ต่างกันมาหรอกครับ แม้คุณจะเริ่มเปลี่ยนบริษัทในธุรกิจขายตรงกี่บริษัทก็ตาม นั่นคือท่านคือ 99 % ของทุกธุรกิจขายตรงที่ท่านเข้าไปร่วมตลอด อะไรคือคำตอบให้ในการทำธุรกิจขายตรงล่ะ
ขอแนะนำ ระบบ Attraction Marketing หรือระบบการตลาดแบบดึงดุด
ในการแก้ปัญหาธุรกิจขายตรง ระบบ Attraction Marketing คืออะไรล่ะ ? มันจะแก้ปัญหาธุรกิจขายตรงได้อย่างไร?
Attraction Marketing ชื่อก็บอกแล้วนะครับว่าเป็นการทำการตลาดแบบดึงดูด ถ้าท่านทำธุรกิจเครือข่าย แล้วท่านต้องการจะดึงดูดอะไรเหรอ...สิ่งเหล่านี้ไงครับ
-การตลาดที่คุณเข้าถึงคนที่ต้องอยู่แล้วไม่ขายเนื้อให้คนกินเจ
แน่นอนเขาต้องการ การคุยกับคนที่ต้องการมันย่อมง่ายกว่า

-การตลาดที่ใช้ระบบอัตโนมัติในการติดตามคนโดยที่ไม่จำเป็นต้องยกหูโทรศัพท์
หรือออกจากบ้านแม้แต่ก้าวเดียว นี่คือการตลาดในฝันของหลายคน
ในขณะที่หลายธุรกิจไม่เคยอยู่กับบ้านเลย

-การตลาดที่เลือกคนได้ ลองสมมตินะครับ ถ้าคุณได้แต่ผู้นำเข้าร่วม
ในขณะที่หลายๆ ธุรกิจได้แต่คนที่ไม่ใช่ตัวจริงเข้าร่วมสุดท้าย
ทำแป๊ปๆ ไม่เกิดรายได้ก็เลิกไป เพราะเขาไม่เข้าใจธุรกิจ

แล้วมันมีแล้วเหรอระบบการทำงานแบบนี้สำหรับธุรกิจเครือข่าย

แล้วไอเดียนี้มันเกิดจริงเหรอกับธุรกิจเครือข่าย? ถ้ามีจริงก็ดีสิ? ฉันละเหนื่อยกับการโทรตามจิกคน ท้อกับการปฎิเสธของคน

ข่าวดีก็คือ ระบบนี้ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว นี่คือจุดเปลี่ยนทางการตลาดเครือข่าย ที่คนเครือข่ายต้องเรียนรู้ในการทำการตลาดต่อไปในอนาคต





การสร้างแรงดึงดูด

การสร้างแรงดึงดูด



..ไม่ใช่วิ่งไปสู่เป้าหมาย..

..แต่ตัวคุณเองนั่นแหละคือเป้าหมาย..

..เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเป้าหมาย..

..เพื่อพวกเขาจะได้วิ่งเข้ามาหาคุณ..

ใช่แล้วครับ “แรงดึงดูด” คือ การเปลี่ยนตัวเอง ให้กลายเป็น "เป้าหมาย" ของผู้อื่นครับ
..เคยเห็นกลุ่มเด็กสาววัยรุ่น ที่ไปนั่งรออยู่แถวสนามบิน เพื่อขอถ่ายรูปคู่กับดารา
เกาหลีม้ัยครับ
เด็กสาวเหล่าน้ัน.. ต้องมาน่ังรออยู่หลายช่ัวโมง... บางทีก็เป็นวัน
แต่พวกเธอก็ไม่ย่อท้อ เพราะเป้าหมายของเด็กๆกลุ่มนี้ชัดเจน คือ การไปให้ถึงตัว
พระเอกเกาหลีคนนั้น
เพื่อขอถ่ายรูปคู่กับ ”พระเอกในฝัน” ให้จงได้
ซักคร้ังหนึ่งในชีวิต ก็ยังดี…
……………………..
มนุษย์ทุกคน...ล้วนแล้วแต่วิ่งเข้าหา...เป้าหมายของตัวเอง...กันท้ังสิ้น
เราวิ่งเข้าหาใคร...ก็แสดงว่า
...คนๆนั้น...มีแรงดึงดูดเหนือจิตใจของเรา
ที่ผานมา.. เรามักเป็นฝ่ายวิ่งเข้าหาผู้อื่นอยู่เสมอ
วันนี้.. เราจะให้ผู้อื่นเป็นฝ่ายวิ่งเข้าหาเราบ้าง

ธุรกิจ อารากอนเวิลด์54
ช่องทางสู่อิสระภาพทางการเงินและเวลา
ที่ทันสมัยที่สุด!!! ในเวลานี้...
สนใจร่วมธุรกิจกับเรา คลิ๊ก!!!






ธุรกิจเครือข่าย MLM ออนไลน์ โอกาสสู่รายได้หลักแสน


เรื่องเล่าประสบการณนักธุรกิจเครือข่าย




เราทุกคน เริ่มธุรกิจเครือข่ายด้วยการ "ลิสต์รายชื่อคนรู้จัก" ใช่ไหมครับน่ันคือ เรากำหนดเป้าหมายไว้ที่การทำงานกับ "คนที่เรารู้จัก" เป็นอันดับแรกแต่เมื่อ เราเริ่มโทรชวนคนที่เรารู้จักเรากลับได้พบว่า.. พวกเราส่วนใหญ่"ชวนคนที่ตัวเองรู้จัก..ไม่ได้เลย"

แถมยังไม่พอ.. "โดนดูถูก" ..อีกด้วย

"เดี๋ยวนี้ มาทำงานประเภทนี้แล้วเหรอ เสียดายความรู้ที่เรียนมา ทำไมไม่ไปทำงานที่ตัวเองถนัดล่ะ"

"งานเครือข่ายอะไรก็ไม่รู้ ระวังโดนหลอกนะ เดี๋ยวนี้พวกต้มตุ๋นมีเยอะ""..ฯลฯ.."

..นี่เป็นสิ่งที่ผมเจอเป็นประจำ สมัยที่พึ่งเริ่มทำธุรกิจเครือข่ายใหม่ๆ..ถึงแม้ว่า ผมจะสามารถชวนเพื่อนฝูงคนรู้จัก มาเป็นดาวน์ไลน์ได้บ้าง แต่ดาวน์ไลน์ของผมเหล่าน้ัน ก็ต้องพบเจอปัญหา เมอื่ เริ่มลิสต์รายชื่อ และโทรชวนคนรู้จักของพวกเขาดาวน์ไลน์ของผมหลายคน.. ชวนคนรู้จักไม่ได้เลย...ดาวน์ไลน์ของผมบางคน ขายของเก่งมาก ทำมาครึ่งปี มีรายได้จากการขายเยอะมาก แต่หาดาวน์ไลน์ของตัวเองไม่ได้เลยซักคนสุดท้ายเมื่อมีลูกค้ามากขึ้นก็เริ่มเหนื่อย เพราะมีแต่ “คนช่วยซื้อ” แต่ไม่มี"คนช่วยขาย" พูดง่ายๆว่า สร้างทีมงานดาวน์ไลน์ไม่ได้นั่นเอง...ต้องมีทีมงานดาวน์ไลน์เราถึงจะเรียกตัวเองว่าเป็น นักธุรกิจเครือข่ายถ้าคิดแต่จะขายของด้วยตัวเราเพียงคนเดียว ผมแนะนำให้ไปทำ Single LevelMarketing หรือที่เรียกว่า "ขายตรงชั้นเดียว" ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยจะดีกว่า ได้คอมมิสชั่นจากการขายเป็นกอบเป็นกำกว่า Network Marketing หรือ "ธุรกิจเครือข่าย" เป็นไหนๆ

...แต่เราทำธุรกิจเครือข่ายกันทำไมล่ะครับ…???

ถ้าไม่ใช่เพราะ ต้องการอิสรภาพทางการเงินและเวลาที่เรียกว่า"หยุดทำ แต่รายได้ไม่หยุด" ใช่หรือไม่..!แม้ว่าในสมัยนั้น ธุรกิจเครือข่ายที่ผมทำอยู่จะมีผู้ที่ประสบความสำเร็จ เป็นท้ังคุณหมอ เภสัชกร วิศวกร หรือแม้แต่นักขายประกันชีวิตหันมาเอาดีทางธุรกิจเครือข่าย พวกเขาเหล่านี้ คือ "ภาพความสำเร็จ" ที่ทำให้ผมเชื่อม่ันเป็นอย่างมากว่าธุรกิจนี้สามารถช่วยให้เราบรรลุอิสรภาพที่เราต้องการได้อย่างแท้จริง..

...แต่จนแล้วจนรอด ผมก็ไปไม่ถึงฝันที่ตั้งเอาไว้ เพราะผมเกิดอาการ "ท้อสุดขึด"และ "ล้มเลิกไปก่อน" ….สาเหตุหลักที่ล้มเลิก ก็เพราะ ผมและดาวน์ไลน์ไม่สามารถ "ขยายเครือข่าย" ได้อย่างที่ใจเราหวังเอาไว้น่ะสิครับ

แม้ว่าพวกเราจะมีลูกค้ามากพอสมควร แต่ลูกค้าที่แสนดีเหล่าน้ัน ก็ไม่สนใจที่จะทำธุรกิจร่วมกับเราเลย พวกเขาชอบที่จะเป็นเพียง "ผู้ซื้อ" มากกว่า เราเริ่มรู้สึกว่า.. เครือข่ายของพวกเรา.. เติบโตช้ามาก...

สรุปว่า การขยายเครือข่ายของผม ไปไม่ถึงไหนเลย ผ่านไปปีกว่า ก็ยังทำกันอยู่
ไม่กี่คนนั่นแหละ เงินทุนก็เริ่มร่อยหรอ.. เพราะหมดไปกับการโฆษณา ซึ่งได้ผลกลับมาไม่คุ้มเอาเสียเลย..สุดท้ายพวกเราก็เริ่มท้อและเหนื่อย เนื่องจากถ้าต้องการมีรายได้มากขึ้น ก็ต้องเพิ่มจำนวนลูกค้าให้มากขึ้น และหมายความว่า เราต้องให้เวลากับการดูแลลูกค้ามากขึ้นตามไปด้วย ท้ังการเอาสินค้าไปส่งให้ลูกค้า การแวะไปเยี่ยมเยือนลูกค้า โทรติดตามผล และอื่นๆอีกสารพัด..
การให้เวลากับลูกค้ามากขึ้น ย่อมส่งผลกระทบกับงานประจำของพวกเราแต่ละคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..ในที่สุดดาวน์ไลน์ของผมบางคนก็เริ่มรู้สึกว่า ไม่คุ้ม และเริ่มหายหน้าไปจากทีม
...บางคนก็เริ่มไม่ค่อยรับโทรศัพท์เวลาทผมโทรไปหาซึ่งผม.. เข้าใจครับ…ช่วงเวลานั้น มันเหมือนมีสัญญาณบางอย่างที่พวกเราส่งถึงกันว่า
"เลิกเถอะเพื่อน..เหนื่อยแล้ว"และแล้วในที่สุด พวกเราก็.. แยกย้ายกันไปตามวิถีชีวิตของแต่ละคนครับ..!
การเริ่มต้นธุรกิจเครือข่ายที่ดีนั้น ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นกับคนรู้จักเสมอไป แต่ควรเริ่มต้นจากการ "เฟ้นหา" คนที่มีทัศนคติและความมุ่งม่ัน ในแบบเดียวกันกับเราให้เจอและไม่สำคัญว่า เรากับเขา รู้จักกันมาก่อนหรือไม่...ไม่สำคัญเลยครับ...คนที่มีจิตวิญญาณและทัศนคติแบบเดียวกัน จะสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วมากเพราะเราต้องการ "เพื่อนที่คิดแบบเดียวกับเราอยู่แล้วครับ
คำแนะนำแรกสุดจากผม ก็คือ"อย่ามัวเสียเวลา..จมอยู่กับรายชื่อคนรู้จัก"แต่จงค้นหา “วิธีการ” ที่จะช่วยให้คุณ "ค้นพบคนที่ใช่" ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใดในโลกนี้ก็ตาม การจะทำแบบนั้นได้คุณต้องรู้จักสิ่งนี้ก่อนครับ..ระบบดึงดูดอัตโนมัติ..




ธุรกิจ อารากอนเวิลด์54
ช่องทางสู่อิสระภาพทางการเงินและเวลา
ที่ทันสมัยที่สุด!!! ในเวลานี้...
สนใจร่วมธุรกิจกับเรา คลิ๊ก!!!